โครงการหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจาก พลเอกอาวุโส มินอองหล่าย ผู้นำการรัฐประหาร เยือนทวาย คือ โครงการยกระดับสนามบินทวาย
มีการจัดทำแผนแม่บท เพื่อยกระดับสนามบินทวายให้เป็นสนามบินมาตรฐานสากล (Code 4D) และขณะนี้ งานรากฐานเบื้องต้นได้เริ่มดำเนินการแล้ว
มีการพยายามเปิดตัวโครงการนี้สองครั้งในปี 2555 และในช่วงรัฐบาล NLD แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
ดูเหมือนว่าโครงการยกระดับสนามบินจะเป็นเป้าหมายหลักในการเยือนทวายของ พลเอก อาวุโส มินอองหล่าย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านใน จ.ทวาย เมื่อเดือนกันยายน 2568
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ประมาณสองเดือนหลังจากการเยือน งานรากฐานเบื้องต้นได้เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเคลียร์พื้นที่ เพื่อสร้างที่พักพนักงานสำหรับโครงการสนามบิน
สนามบิน Code 4D
สนามบิน Code 4D ตามที่กำหนด โดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เป็นประเภทการออกแบบสนามบินที่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดกลางและขนาดใหญ่ และให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ
สำหรับ Code 4D ในแผนแม่บทสนามบินทวาย จะมีสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ รวมถึง บ่อเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง โรงซ่อมบำรุงอากาศยาน และคลังสินค้าทางอากาศ
จะมีการยึดที่ดินและไร่หรือไม่
เพื่อยกระดับสนามบินสู่มาตรฐานสากล จำเป็นต้องขยายพื้นที่สนามบินเดิมและสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
สำหรับโครงการใหม่นี้ ได้จัดสรรพื้นที่ทั้งหมด 436.853 เอเคอร์ ปัจจุบันมีพื้นที่ว่างเพียง 364.677 เอเคอร์เท่านั้น ซึ่งต้องใช้พื้นที่เพิ่มเติมอีก 72.176 เอเคอร์
แม้ว่าจะเป็นที่ทราบกันดีว่า ด้านสนามกอล์ฟทวายจะไม่ถูกใช้ในการขยายสนามบิน แต่ในบัญชีที่ดินที่จัดสรร ประกอบด้วยพื้นที่บางส่วนที่เชื่อมกับสนามบินและพื้นที่สนามกีฬาประจำภูมิภาค
จากข้อมูล Google Maps พบว่าด้านหน้าที่พักมีพื้นที่ที่อยู่อาศัยและปลูกพืชตามฤดูกาล
นอกจากนี้ ที่ดินที่จัดสรรไว้ยังอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งทวายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
สถานีขนส่งแห่งใหม่กำลังก่อสร้างอยู่ชานเมืองทวาย และเสร็จสมบูรณ์เกือบ 100%
ชาวบ้านระบุว่า สนามกีฬาประจำภูมิภาค จะต้องย้ายไปที่สนามกีฬาชเวแวตีริ และขณะนี้กำลังมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สนามกีฬาชเวแวตีริ
เช่นเดียวกัน ที่ดินสำหรับร้านอาหาร และที่จอดรถโดยสารภายในสนามบินก็รวมอยู่ในบัญชีพื้นที่โครงการใหม่ด้วย
ดังนั้น หากจำเป็นต้องใช้ที่ดินสำหรับโครงการสนามบินแห่งใหม่ พื้นที่เหล่านี้อาจเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกยึด
เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ สื่อรัสเซียรายงานว่า รัฐบาลทหารพม่าและรัสเซียได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งจะรวมถึงโครงการท่าเรือและพลังงาน
รัฐบาลทหารได้ตกลงที่จะร่วมมือกับรัสเซียในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย แต่จนถึงขณะนี้โครงการดังกล่าวยังไม่ได้รับการดำเนินการโดยสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลทหารได้ปรับปรุงถนนสาย ไทย - กาญจนบุรีบางส่วน ที่มุ่งหน้าสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ตลอดช่วงฤดูฝน
ในฤดูร้อนปีนี้ รัฐบาลทหารยังได้เร่งดำเนินการปรับปรุงสนามบิน
การปรับปรุงสนามบินเป็น Code 4D มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เครื่องบินและนักธุรกิจชาวรัสเซียสามารถบินตรงไปยังทวายได้
ปัจจุบันรันเวย์มีขนาด 12,000 x 100 ฟุต บรรทุกน้ำหนักได้สูงสุด 873,000 ปอนด์ และสามารถรองรับเครื่องบินพลเรือนและทหารขนาดใหญ่ ซึ่งเพียงพอในการขึ้นและลงของเครื่องบินขับไล่
ดังนั้น แผนเบื้องต้นของโครงการ คือการขยายพื้นที่จอดเครื่องบิน
ปัจจุบัน พื้นที่จอดเครื่องบินสามารถรองรับเครื่องบินโดยสารแบบ ATR 72 ได้เพียงสองลำเท่านั้น
การทหารในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
กลุ่มทหารได้จัดตั้งฐานปฏิบัติการทางยุทธศาสตร์สามแห่ง เพื่อควบคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ฐานปฏิบัติการทั้งสามแห่งนี้ ได้แก่ สถานีตำรวจหม่องมะกัน บนถนนทวาย - หม่องมะกัน - นาบูเล ซึ่งเป็นทางเข้าสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษ, ฐานฯ ทหารหัวสะพาน บ.ยันกิน บนถนนทวาย - เยผิ่ว - นาบูเล (ถนนเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้รู้จักกันในชื่อถนนฉาน) และฐานฯ ทหาร ในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
สถานีตำรวจหม่องมะกัน ซึ่งเป็นทางเข้าสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย จากฝั่ง อ.ลองโลง ถูกกองกำลังกลุ่มต่อต้านโจมตีและเผาทำลายเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ต่อมาทหารเมียนมาได้ยึดคืนและบูรณะขึ้นใหม่
นอกจากนี้ ทหารเมียนมายังคงติดตั้งอาวุธหนักและยึดครองพื้นที่ได้เปรียบบนหัวสะพานแม่น้ำทวาย บ.ยันกิน ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ อ.เยผิ่ว เป็นเวลาประมาณสองเดือน
กำลังพลกองกำลังกลุ่มต่อต้าน กล่าวว่า ฐานฯ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย มีกำลังพลประมาณ 100 นาย และเป็นฐานฯ ที่เข้าถึงได้ยากเนื่องจากมีการวางกำลังอย่างแน่นหนา
ดังนั้น ทหารเมียนมาจึงได้วางกำลังทหารอย่างแน่นหนาบริเวณทางเข้าท่าเรือน้ำลึก (เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย) จากฝั่ง อ.ลองโลง และอ.เยผิ่ว และยังได้วางกำลังทหารอย่างแน่นหนา บริเวณท่าเรือน้ำลึก (พื้นที่โครงการ) เพื่อควบคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษอีกด้วย
หากมีความจำเป็น กองพันทหารราบที่ 104 สามารถส่งกำลังเสริมไปยังสถานีตำรวจหม่องหม่ากัน ภายในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง และกองพันทหารราบที่ 406 และ 407 ก็พร้อมที่จะส่งกำลังเสริมไปยังสถานีตำรวจ บ.หยานกิน เช่นกัน
นี่คือฐานฯ ทหาร ที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ เพื่อควบคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
การวางกำลังอย่างแน่นหนานี้ อาจมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่นักธุรกิจที่เดินทางมาเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเครื่องบินจากรัสเซีย
อันตรายจากการโจมตีทางอากาศ
การขยายสนามบินทวายไม่เพียงแต่จะช่วยให้เครื่องบินทหารและพลเรือนขนาดใหญ่สามารถลงจอดและขึ้นบินได้อย่างง่ายดายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถซ่อมบำรุงเครื่องบินได้อีกด้วย
ปัจจุบัน เครื่องบินขับไล่ กำลังขึ้นบินจากฐานทัพอากาศมะริด เพื่อโจมตีทางอากาศในภูมิภาคตะนาวศรี
แม้ว่าการขยายสนามบินทวาย จะทำให้เครื่องบินขับไล่สามารถขึ้นบินและลงจอดได้ แต่มีความเสี่ยงที่หมู่บ้านในพื้นที่ทวาย จะถูกโจมตีภายในไม่กี่นาที
หากเครื่องบินขับไล่ขึ้นบินและทิ้งระเบิดจากสนามบินทวาย ชาวบ้านจะมีเวลาเตรียมตัวน้อยลง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
นอกจากนี้ กฎหมายว่าด้วยบริการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล ซึ่งประกาศใช้โดยสภาทหารเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 อนุญาตให้จัดตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัยทั้งในและต่างประเทศ และครอบครองอาวุธได้
ดังนั้น อาจมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลทหารจะนำกองกำลังรัสเซียมายังทวาย โดยอ้างว่าเป็นการรักษาความปลอดภัยในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
โครงการปรับปรุงสนามบินทวาย เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งจะดำเนินการร่วมมือกับรัสเซีย คาดว่าจะส่งผลกระทบทางลบต่อประชาชนในพื้นที่
รัฐบาลทหารกำลังเตรียมแผนควบคุมเขตเศรษฐกิจพิเศษ และประชาชนในพื้นที่กังวลว่าหากโครงการเหล่านี้ดำเนินการ การสู้รบจะรุนแรงขึ้นและประชาชนจะต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
ปัจจุบัน กองทัพกำลังดำเนินการสำรวจสำมะโนประชากรในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และประชาชนในพื้นที่อพยพหนีภัยอยู่เสมอ
จากสถานการณ์เช่นนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่าโครงการทวายของกลุ่มทหารที่ยึดอำนาจไม่ได้มีไว้เพื่อการพัฒนาภูมิภาค แต่เป็นการรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของกลุ่มเผด็จการทหารเท่านั้น
บทความจาก Dawei Watch
ผู้แปล #โปรเมียนมา


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น